เกมส์นี้เป็นเกมส์เปิดหัววันเสาร์ของศึกพรีเมียร์ ลีก เวลา 18.30 น. ซึ่งกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งหลายจากที่ต้องหลีกทางให้ทีมชาติไปเกือบ 2 สัปดาห์ โดยนัดนี้ทีมเจ้าบ้านแมนซิตี้นั้นมาในระบบ 3-1-4-2 เน้นเกมแดนกลางให้แน่นไว้ก่อน เพรสซิ่งสูงเป็นส่วนใหญ่และอาศัยจังหวะปิดสกอร์ที่เฉียบคมในการทำประตู และ จังหวะผิดพลาดต่างๆของ หงส์แดง ซึ่งผู้เขียนนั้นสามารถอธิบายได้เป็นข้อๆดังนี้
1. เรือใบสีฟ้าจบสกอร์ได้เด็ดขาดเหลือเกิน
ในครึ่งแรกจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทั้ง 2 ทีมมีโอกาสยิงทั้งหมด 7 ครั้งเท่ากัน แต่ว่า ซิตี้ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ 2 ลูก ขณะที่แนวรุกของหงส์แดงในนัดนี้ดูจะใช้โอกาสเปลืองเหลือเกิน มีโอกาสยิง 7 ครั้งแต่ไม่มีประตูเกิดขึ้นเลย เรียกว่าทีเด็ดทีขาดของแมนซิตี้มีมากกว่าในเกมส์ใหญ่ๆที่สูสีกันแบบนี้
2. เกมส์รับหงส์แดงไม่มีสมาธิ ทำให้เสียประตูง่ายเกิน
จากจังหวะเสียประตูส่วนใหญ่นั้นจะเห็นได้ว่า กองหลังของลิเวอร์พูลนั้นไม่ค่อยมีสมาธิในการประกบตัวผู้เล่นของแมนซิตี้เลย นั่นทำให้ เรือใบสีฟ้านั้นได้ประตูอย่างง่ายดายเหลือเกิน ซึ่งถ้าหากอยากลุ้นแชมป์กับพวกท็อปซิกซ์จริงๆแล้วล่ะก็ กองหลังยุ่ยเป็นทิชชู่เปียกอย่างนี้ บอกเลยว่า ยังสู้กับทีมอื่นค่อนข้างลำบากมาก อาจจะต้องเน้นนั้นต่อนัดเลยก็ว่าได้
3. เมื่อมาเน่ถูกไล่ออก เกมส์ของหงส์แดงก็จบลง
หลังจากที่ซาดิโอ มาเน่ ยกเท้าสูงใส่หน้าของ เอแดร์สัน ผู้รักษาประตูของแมนซิตี้ และถูกผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 37 ทำให้เรือใบสีฟ้าเล่นได้ง่ายขึ้นและคุมเกมส์ในนัดนี้เอาไว้ได้หมดก่อนที่จะถล่มเอาชนะหงส์แดงไปได้ในที่สุด
4. แท็คติกของ เป๊บ นัดนี้ใช้ได้ผล
เชื่อเหลือเกินว่ากุนซือสมองเพชรจอมแท็คติกอย่า เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ต้องได้ดูเกมส์ที่ลิเวอร์พูลยำใหญ่ใส่อาร์เซน่อล 4-0 อย่างแน่นอน ซึ่งนัดนี้ เป๊บวางหมากมาเล่นในระบบ 3-1-4-2 หลัง 3 ตัวของซิตี้นั้นจับกองหน้าของหงส์แดงได้อยู่หมัด และการแพ็กแดนกลางถึง 5 คนในนัดนี้เรียกได้ว่าเอาชนะกลางของลิเวอร์พูลที่มีแค่ 3 คนได้อย่างกินขาดเลยทีเดียว ขณะที่เจอร์เก้น คล็อปป์นั้นเป็นคนที่ถอยหลังไม่เป็นอยู่แล้ว เมื่อเหลือ 10 คน แต่ก็ยังพยายามจะบุกสู้แต่ก็ต้านทานพลังของซิตี้ไม่อยู่
This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น