5 เหตุผลสำคัญที่แมนยูจะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีก

 http://th.13322.com/

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดฉากฤดูกาลใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด เก็บ 9 คะแนนเต็ม โดยยิงไปถึง 10 ลูก และยังไม่เสียบริสุทธิ์สักประตูเดียว ทำให้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตาราง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

            "ปีศาจแดง" จะกลับมาเตะเกมแรกหลังผ่านช่วงเบรกทีมชาติ ด้วยการบุกไปเยือน สโต๊ค ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนนี้ ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์ถึง 5 เหตุผลที่ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ ลีกได้ในซีซั่นนี้ โดย 5 เหตุผลที่ว่ามีอะไรกันบ้างไปชมกันได้เลย!!!

 http://th.13322.com/


5. การออกสตาร์ตที่ดีและความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม

 http://th.13322.com/


การเปิดตัวด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด ด้วยการยิงอย่างถล่มทลาย 10 ประตู แถมยังไม่เสียประตูเลย ทำให้ลูกทีมของ มูรินโญ่ มีความมั่นใจอย่างมาก ก่อนลงเตะ 2 นัดต่อไปที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับ สโต๊ค ในลีกและพบ บาเซิ่ล ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม  

หลังจากผ่านเกมกับ สโต๊ค กับ บาเซิ่ล ไปแล้ว พวกเขาก็จะเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งถือว่าเป็นบททดสอบที่หนักเอาการ หลัง "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เสริมทัพได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงซัมเมอร์ รวมถึงดึง เวย์น รูนี่ย์ กลับไปอยู่ด้วยอีกครั้ง แต่ถ้าปีศาจแดงสามารถผ่าน 3 เกมสำคัญนี้ไปได้แบบไม่เจ็บตัวก็เรียกได้ว่าลุ้นแชมป์กันได้ยาวๆแน่นอน


4. ขุมกำลังขนาดใหญ่ที่ทดแทนกันได้ตลอดทั้งฤดูกาล

 http://th.13322.com/


โชเซ่ มูรินโญ่ มีนักเตะให้เลือกใช้งานมากมายในซีซั่นนี้ โดยมีทั้งดาวรุ่งและผู้เล่นประสบการณ์สูงไว้เป็นอาวุธเด็ด รวมทั้งไปดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง ขุมกำลังสำรองของ "ปีศาจแดง" สามารถจัดทีมสู้กับทีมอื่นๆ ได้สบาย โดยนายทวารก็มี เซร์คิโอ โรเมโร่ ที่ไว้ใจได้ในตำแหน่งด่านสุดท้าย นอกจากนั้นก็ยังมี มาร์กอส โรโฮ, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, ลุค ชอว์, คริส สมอลลิ่ง, อันเดร เอร์เรร่า, อองโทนี่ มาร์กซิยาล และ มารูยาน เฟลไลนี่้ ที่สามารถลงมาพลิกเกมได้ตลอดเวลา


นอกจากนั้นการกลับมาลงสนามได้อีกครั้งของ อิบราฮิโมวิช ในช่วงต้นปีหน้า ก็น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการไล่ล่าแชมป์ในช่วงท้ายฤดูกาลอีกด้วย



3. ผู้ปิดทองหลังพระที่ชื่อ เนมานย่า มาติช

 http://th.13322.com/

แฟนบอลหลายคนอาจจะยังสงสัยกันอยู่ว่าเหตุใด เชลซี จึงยอมขาย เนมานย่า มาติช มาให้ทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์โดยตรงอย่าง แมนยู ซึ่งกองกลางวัย 29 ปี เริ่มต้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับปีศาจแดง ส่งผลให้ อันเดร เอร์เรร่า กองกลางขวัญใจเด็กผีต้องหลุดเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย 

    

มาติช คุมเกมแดนกลางได้อย่างสุดยอด ไล่ตัดบอลได้ตั้งแต่กลางสนาม ทำให้เกมรับเล่นได้สบายขึ้นและยังทำให้ ปอล ป็อกบา สามารถเดินเกมรุกได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องมาพะวงกับการเล่นเกมรับ ซึ่งมูริญโญ่รู้จักมาติชเป็นอย่างดีจึงนำเขามาร่วมทีม ซึ่งนี่น่าจะเป็น 1 ในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการลุ้นแชมป์ลีกของแมนยูในซีซั่นนี้


2. คู่เซนเตอร์แบ็กที่แข็งแกร่ง

 http://th.13322.com/


มูรินโญ่ เลือกที่จะใช้ เอริก ไบยี่ กับ ฟิล โจนส์ ยืนเป็นเซนเตอร์คู่กัน และทั้งคู่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีข้อผิดพลาด และยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวหลังจากผ่าน 3 เกมแรก ขณะที่แนวรับคนอื่นๆ ทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์ และ ดาบิด เด เคอา ต่างก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมเช่นกัน


จะสังเกตได้ว่าถ้า มูรินโญ่ มีปราการหลังตัวกลางที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นไว้ใจได้เขามักจะทำทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์อยู่ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะไปคุมทีมใดก็ตาม ยกตัวอย่าง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่และริคาร์โด้ คอสต้า สมัยคุมปอร์โต้ คว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ปี 2003 และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2004 สมัยเข้ามาคุมเชลซีคว้าแชมป์ลีกก็มี จอห์น เทอร์รี่กับริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เป็นเซ็นเตอร์ที่แข็งแกร่ง หรือว่าจะเป็นอินเตอร์ชุดคว้า 3 แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ กัลโช่ เซเรียอา, อิตาลีคัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก็มีคู่เซ็นเตอร์ที่เหนียวแน่นหนึบอย่าง ลูซิโอ และ วอลเตอร์ ซามูเอล เป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จ


ซึ่งไม่น่าว่าเราอาจจะได้เห็น เอริก ไบยี่ กับ ฟิล โจนส์ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็กที่แข็งแกร่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของมูรินโญ่ ซึ่งอาจจะเริ่มต้นที่แชมป์พรีเมียร์ ลีก ในซีซั่นนี้


1. โชเซ่ มูรินโญ่ นำทีมความแชมป์ลีกในปีที่ 2 อยู่เสมอ

 http://th.13322.com/


เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการเล่นของ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้ดูจะแตกต่างจากซีซั่นที่แล้ว หลังจากแฟนบอลได้เห็นการปิดสกอร์ที่เฉียบคมมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันต่างจากปีที่แล้วที่เปิดเกมบุกเข้าใส่คู่แข่งแต่จบสกอร์ไม่ได้จนมีผลเสมอมากกว่าชนะและหลุดวงโคจรในการลุ้นแชมป์ไปโดยปริยาย


ซึ่งในซีซั่นนี้ปีศาจแดงเปิดเกมบุกปูพรมแดงเข้าใส่ทั้ง เวสต์แฮม, สวอนซี และ เลสเตอร์ อยู่ตลอดทั้งเกม ซึ่งจริงอยู่ว่าในจังหวะของเกมอาจจะมีตื้อๆตันๆอยู่บ้างเนื่องจากคู่แข่งลงไปลับในแนวลึก หรือเรียกว่า “จอดรถบัสในแดนตัวเอง” แต่เมื่อ มูรินโญ่ ใช้กึ๋นที่มีในการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม โดยการส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือแม้แต่ มารูยาน เฟลไลนี่ ลงมาแล้วพวกเขาเหล่านี้สามารถยิงประตูพลิกเกมให้ทีมสามารถคว้าชัยชนะได้ ซึ่งเหล่านี้มันเป็นคุณสมบัติของทีมที่จะเป็นแชมป์คือ สามารถเก็บชัยชนะในเกมที่ทีมต้องชนะ

ฤดูกาลนี้ผ่านมาไปแล้ว 3 นัด ซึ่งแมนยูโชว์ฟอร์มสดมาก ยิงได้ 10 ประตู และไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว แต่หนทางยังอีกยาวไกลเชื่อว่ายังมีบททดสอบให้แมนยูอีกมากมายเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อต้องโคจรมาพบกับทีมบรรดายักษ์ใหญ่ด้วยกันแล้ว ปีศาจแดงจะยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่โหดเหี้ยมแบบนี้ได้อยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าหากยังรักษาฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงระดับนี้ไปได้เรื่อยๆตลอดทั้งฤดูกาลได้ แล้วแชมป์พรีเมียร์ลีก จะไปไหนเสีย เพราะอย่าลืมว่าการคุมทีมในฤดูกาลที่ 2 ของมูรินโญ่ มักจบด้วยคำว่า "แชมป์" อยู่เสมอ

 http://th.13322.com/
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น