"แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบได้อย่างสบายๆ เมื่อสามารถเอาชนะ เบอร์ตัน ไปได้ 4-1 จากสองประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจสซี่ ลินการ์ด,อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำอีกคนละหนึ่งประตู ก่อนจะโดนตีไข่แตกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เกมนี้อาจจะยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากนัก เนื่องจากเกรดบอลค่อนข้างห่างชั้นกัน แต่ก็เป็นเกมที่อาจจะเรียกความมั่นใจของเหล่าผู้เล่นสำรองขึ้นมาบ้าง ซึ่งเราพอจะเห็นถึง 5 สิ่งที่ควรรู้!หลังเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่อัด เบอร์ตัน 4-1 มีอะไรบ้างไปชมกันได้เลย!!!
5. เบอร์ตันมาสู้เต็มที่
เมื่อดูจากผลงานในลีกแล้ว เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ทำผลงานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ปัจจุุบันพวกเขารั้งอันดับ 19 ของตาราง เวทีแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบถึงเรื่องคุณภาพเมื่อเทียบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเทียบกันไม่ได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ผู้มาเยือนก็ไม่ได้จัดชุดใหญ่ลงทุกตำแหน่งเช่นกัน คงเพราะต้องการเน้นในเกมลีกที่ตัวเองจมอยู่ท้ายตารางแชมเปี้ยนชิพ แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นรองอยู่แล้ว แถมต้องมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกต่างหาก สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ ต้องใจสู้สถานเดียว
พวกเขามีโอกาสยิงถึง 10 ครั้ง ตรงกรอบ 3 และได้มา 1 ประตู แม้จะแพ้แบบเละเทะ แต่การยิงประตูได้ 1 ลูก อย่างน้อย ๆ มันก็ช่วยให้แฟน ๆ ของพวกเขาได้แหกปากลั่นที่โรงละครแห่งความฝัน ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน
4. ปีศาจแดง เสียประตูแบบไม่น่าเสีย
เบอร์ตัน สร้างสรรค์โอกาสได้ลุ้นหลายจังหวะ แต่ยิงนกตกปลาซะส่วนใหญ่ และอาจพูดได้ว่าพวกเขาสมควรมีหนึ่งประตูติดไม้ติดมือในเกมนี้
โจเอล เปเรย์ร่า นายด่านดาวรุ่งที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง เพื่อให้สั่งสมประสบการณ์ แต่ดันมีส่วนผิดพลาดทำให้ทีมเสียประตู และแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรมาเสียอะไรง่าย ๆ แบบนี้
จากผลนัดดังกล่าว ส่งผลให้ เบอร์ตัน กลายเป็นทีมแรกที่เจาะไช่แดงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในซีซั่นนี้ (ทุกรายการ) หลังก่อนหน้านี้ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่เสียบริสุทธิ์ในบ้านตัวเองมานานถึง 4 เกมติดต่อกัน
3. ชอว์ กลับมาลงสนามอีกครั้ง
ลุค ชอว์ กลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจากหายไปนานเกือบ 5 เดือน โดยก่อนหน้านี้ใช้เวลาอยู่กับการรักษาอาการบาดเจ็บ และเรียกความฟิตของตัวเองคืนกลับมาก่อนหน้านี้เขาลงเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดทีมสำรองไป 3 เกม และเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา กับ เบอร์ตัน เป็นการคัมแบ็กให้กับทีมชุดใหญ่หนแรกในรอบเกือบ 5 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ในเกมลีกกับ สวอนซี ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
การกลับมาหนนี้ ดูจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางมากสักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของนักเตะที่ห่างหายจากสนามไปนาน และคงต้องให้เวลาเขาหน่อย แต่ต้องไม่ลืมว่าเขามีเวลาไม่มากนัก
ช่วงเวลาที่เหลือนี้ อีชอว์ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ โชเซ่ มูรินโญ่ เห็นว่าเขาดีพอที่จะอยู่ในทีมชุดนี้ เพราะเขาเหลือสัญญากับ ปีศาจแดง แค่ถึงซัมเมอร์ 2018 (หรือสิ้นสุดซีซั่นนี้เท่านั้น)
2.มาต้าโดดเด่นเหลือเกินกับบทบาทจอมทัพเบอร์ 10
เกมนี้ มาต้า ได้โอกาสสวมบทจอมทัพ 'หมายเลข 10' ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก แถมดูจะเหมาะกับเขามากกว่าตำแหน่งประจำอย่างกองหน้ากึ่งปีกขวาซะอีก
นัดนี้ มาต้า จ่ายบอลทะลุช่องได้อย่างสวยงามหลายจังหวะ และเกือบจะมีชื่อเป็นคนทำประตูแต่น่าเสียดายที่บอลไปชนเสา ซึ่งเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
1.การได้ประตูนำอย่างรวดเร็วทำให้เจ้าบ้านเล่นง่าย
ในนัดนี้แมนฯยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ 5 นาทีแรกของเกม และเกมจบตั้งแต่ตอนนำห่าง 2-0 จากมาร์คัส แรชฟอร์ด ทั้ง 2 ลูก ซึ่งเกมรุกวูบวาบ และดุดัน แต่ก็ยังใช้โอกาสสิ้นเปลืองไปหน่อย โดยเฉพาะ มาร์กซิยาล กับ แรชฟอร์ด ที่น่าจะทำแฮตทริคได้ทั้งคู่
ซึ่งในนัดนี้ มูรินโญ่ ให้โอกาสบรรดาตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้ลงสนามได้โอกาสลงเล่นหลายคน แต่ขุมกำลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเหนือชั้นกว่า เบอร์ตันอยู่หลายขุมเมื่อได้ประตูนำไวมันก็ยากเหลือเกินที่ทาง เบอร์ตัน จะกลับขึ้นมาจากหลุมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
// สล็อตออนไลน์ไลน์เรามีบริการให้ท่านได้ร่วมสนุกกัน :
ตอบลบสล็อตออนไลน์
ACE333
Joker Gaming
Joker สล็อต
Joker123
w88 บาคาร่า
เซ็กซี่บาคาร่า